แสงเทียนที่สุก สกาว ครั้งหนึ่งมันคงเหลือเพียงคราบน้ำตา แต่ความวิเศษที่เราจะจดจำไว้ตลอดคือ กลิ่นอันหอมละมุน
เทียนหอม
|
|
ก่อนที่ โธมัส
อัลวา เอดิสัน จะรู้จักวิธีประดิษฐ์หลอดไฟขึ้นนั้น เทียนไข เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มแสงสว่าง
ซึ่งนิยมใช้กันไปทั่วโลก แต่แม้ว่า จะผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว เทียนไขก็ยังไม่ถูกลืม
มันยังคงเป็นที่นิยมมาก เหมือนเช่นเคย และทุกบ้านต้องมีติดไว้ ไม่ว่าจะเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
หรือ ไว้ใช้ยามไฟฟ้าดับ และสร้างบรรยากาศรอบ ๆ ให้ดูน่าอยู่มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน นอกจากเทียนไข จะช่วยเพิ่มแสงสว่างให้เราแล้ว เรายังสามารถจะนำเทียนนั้น มาทำเป็นเทียนหอม เพื่อช่วยผ่อนคลายตัวเราเองได้ด้วย และด้วยรูปแบบ กลิ่นหอมเตะจมูก และสีสันที่สะดุดตานี่เอง ที่ทำให้เทียนหอม กลายเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างความประทับใจ และไดัรับความนิยมไปทั่วโลก และหากจะต้องให้ของขวัญแก่ใครสักคน เทียนหอม ก็กลายเป็นตัวเลือกแรก ที่หลาย ๆ คนนึกถึง
อย่างไรก็ตาม ของขวัญชิ้นนี้ คงจะวิเศษและถูกใจผู้รับ มากยิ่งขึ้น หากมันมาจากฝีมือของผู้ให้เอง วันนี้เราจึงมีวิธีการทำเทียนหอมแบบง่าย ๆ มาฝากกันค่ะ
อุปกรณ์
- พาราฟิน( paraffin ) วัสดุตัวนี้หาซื้อได้ไม่ยาก เพียง เข้าไปตามร้านขายอุปกรณ์งานประดิษฐ์ หรือร้านขายของชำ เท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะแบ่งขายเป็นแผ่นหนักประมาณ 10 ปอนด์ ในปริมาณขนาดนี้จะทำให้เราได้ขี้ผึ้งประมาณ 1 แกลลอน
- สเตียริน (stearin ) สาร ไขกรดสเตียริก ได้จากไขมันสัตว์) จำนวน 3 ช้อนโต๊ะ/ ขี้ผึ้ง 1 ปอนด์ โดยจะเป็นตัวช่วยทำให้เปลวเทียน สามารถลุกไหม้ได้นาน
-สี ใช้ได้ทั้งชนิดน้ำ แท่ง และผง โดยผสมสีจนได้สีที่ต้องการ หรือ ถ้าต้องการประหยัดก็สามารถนำสีเทียน มาเป็นส่วนผสมได้
- น้ำหอม เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทียนหอม ถ้าต้องการให้เทียน มีกลิ่นแบบไหนก็สามารถ เลือกได้ตามต้องการ
- เบ้าหล่อเทียน หรือแม่พิมพ์ สามารถหาซื้อได้ ตามร้านขายอุปกรณ์ หรือทำเองได้ โดยใช้กระดาษแข็ง ตัดเป็นรูปร่างต่างๆ ที่สามารถ เก็บขี้ผึ้งร้อนได้ หรืออาจจะนำแก้วรูปทรงต่างๆ มาเป็นแบบพิมพ์ก็ได้
- หม้อต้ม ขี้ผึ้ง 2 ใบ หรือ อาจใช้กะทะแทนก็ได้
- ไส้เทียน สามารถหาได้ง่าย ตามร้านขายอุปกรณ์ทำเทียน ไส้เทียนนั้น มีให้เลือกหลายขนาด ตามขนาดของเทียน หรือจะทำเองก็สามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้เส้นด้ายจากผ้าค๊อตตอน จุ่มลงในน้ำ 1 ถ้วย ผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ และกรดบอริก( boric ) 2 ช้อนชา แช่ทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็นำมาดึงให้ตึง และนำไปตากให้แห้ง จากนั้นนำมาถักเป็นเกลียวรวมกัน ก็จะได้ไส้เทียนที่ใช้การได้แล้ว
|
|
วิธีการทำ
1. เลือกเบ้าหลอมตามแบบที่ต้องการ ถ้าเป็นแม่พิมพ์จากแก้ว หรือกระดาษให้ทาน้ำมันพืช ที่เบ้าหล่อบางๆ ซึ่งจะช่วยให้เทียนหลุดออกจากเบ้าได้ง่าย ระวังถ้าคุณเลือกแก้วที่ก้นกว้างกว่าปากแก้ว คุณจะไม่สามารถนำเทียนออกมาได้เลย หากเป็นแม่พิมพ์ที่ซื้อมาจากร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นแม่พิมพ์โลหะ ซึ่งออกแบบมาให้ไม่ติดเทียน ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องทาน้ำมันพืช ก่อนเทเทียนก็ได้
2.จากนั้น เริ่มละลายขี้ผึ้ง หรือ พาราฟินลงในหม้อต้ม โดยตั้งไฟที่อุณหภูมิปานกลาง รอจนกระทั่งขี้ผึ้งละลายเป็นน้ำ หรืออยู่ที่อุณหภูมิประมาณ 150-180 องศาเซลเซียส จึงเติมส่วนผสมอื่นๆ ที่ต้องการลงไป เช่น stearin สีและน้ำหอม รอซักพักจนกระทั่งละลายกลายเป็นเนื้อเดียวกัน จึงนำขึ้นจากเตา ควรควบคุมอุณหภูมิ ของขี้ผึ้งให้อยู่เหมาะสมกับแม่พิมพ์ที่ใช้ เพราะถ้าใช้แม่พิมพ์แก้ว เทียนที่ความร้อน 190 องศา อาจะทำให้แก้วแตก และเกิดเพลิงไหม้ได้ เพราะแม่พิมพ์เป็นกระดาษแข็ง พลาสติก หรือแก้วจะทนความร้อนได้ประมาณ 130 องศา ส่วนแม่พิมพ์โลหะสามารถทนความร้อนได้ 190 องศา
3.นำไส้ตะเกียงใส่ลงไปในแม่พิมพ์ และดึงให้ตึง พร้อมทั้งเทน้ำขี้ผึ้งที่ได้ใส่ในแม่พิมพ์
4.ตั้งทิ้งไว้ รอจนกระทั่งเย็น โดยสังเกตว่า หากขี้ผึ้งเริ่มเย็น มันจะเกิดแอ่งบุ๋มตรงกลาง ส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ แต่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดของมันด้วย หากขนาดใหญ่ก็จะต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น
5.เมื่อเทียนเย็นได้ที่แล้ว ค่อยแกะเทียนที่ได้ออกจากเบ้าหล่อ ด้วยการค่อยๆ ดึงไส้เทียนออกมา ตัวเทียนก็จะหลุดตามออกมาด้วย
6.หลังจากที่ดึงเทียนออกจากเบ้าหล่อแล้ว ตัดไส้เทียนออกให้เหลือไว้ประมาณ 1/2 นิ้ว เพียงแค่นี้คุณก็ได้เทียนเล่มสวย เมื่อนำไปจุดไฟนอกจากจะได้แสงสว่างที่สวยงามแล้ว คุณยังจะได้สัมผัสกับกลิ่นหอม ที่ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกได้อีกด้วย
แต่ขอแนะนำว่า อย่านำมาเทียนที่ได้มาใช้ทันที ควรรออย่างน้อยประมาณ
10 วัน จึงค่อยนำมาใช้ เพื่อที่เทียนนั้นจะได้ติดกันสนิทกับไส้ ของมัน ซึ่งก็จะช่วยให้เทียนม สามารถติดไฟได้นานขึ้นอีกด้วย
|
U
& K
|
แหล่งข้อมูล :
www.telliquah.com
www.relaxcandle.com
http://md.essortment.com
http://candles.genwax.com
|
|