Home บทความ Health & Beauty อาหารต้องห้าม ยามท้องว่าง
อาหารต้องห้าม ยามท้องว่าง
ชีวิตที่รีบเร่งในปัจจุบัน อาจจะทำให้ใครหลาย ๆ คนสูญเสียเวลาในการทำกิจกรรมส่วนตัว บางอย่างไปบ้าง แม้กระทั่งเวลาจะเพิ่มพลังให้กับร่างกายก็แทบจะไม่มีเลย ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงเลือก อาหารที่ทานง่ายมาติดไว้ตามรถ บ้าน หรือที่ทำงานเพื่อสะดวกในการนำมารับประทาน
     
   
 
 
 
 
ทราบหรือไม่ว่า ? อาหารบางอย่าง หรือ ผลไม้บางชนิดที่เรานำมาเป็นอาหารประทังความหิว ยามท้องว่างนั้น มันอาจส่งผลร้ายต่อคุณแทนที่จะทำให้คุณอิ่มท้องก็ว่าได้ ไปดูซิว่าอาหารต้องห้าม ยามท้องว่างนั้นมีอะไรบ้าง ?

1. กล้วย

กล้วยถือว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมาย ซ้ำยังเป็นของที่ทานง่าย และเป็นของโปรดของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะเด็ก ๆ ในวัยกำลังซน ทว่า เห็นเป็นกล้วยธรรมดา ๆ แบบนี้ ถ้ากินไม่ถูกเวลา ก็ป่วนเอาเรื่องเลยเชียวละ เนื่องจากกล้วยนั้นอุดมไปด้วยธาตุแมกนีเซียม ฉะนั้น การรับประทานกล้วย ขณะท้องว่างจะทำให้ปริมาณ ธาตุแมกนีเซียม ในเลือดสูงขึ้น ทำให้สูญเสียสัดส่วน ของแคลเซียมและแมกนีเซียมไป เป็นการยับยั้งการทำงานของหลอดเลือดหัวใจ เป็นอันตราย ต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

2. กระเทียม

แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุนรุนแรง แต่หลาย ๆ คนก็ชอบนำกระเทียมมา เป็นส่วนประกอบกับอาหารหลายประเภท ถ้าหนึ่งในนั้นคือคุณ ระวังอย่าทานอาหารที่มีส่วนประกอบ ของกระเทียมเวลาท้องว่างบ่อย ๆ นะคะ เพราะกระเทียมจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหาร ได้รับการกระตุ้น จนสามารถทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบอย่างรุนแรง

3. ผัก

จริงอยู่ที่ผักนั้นดีมีประโยชน์ เพราะอุดมด้วยวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารนานาชนิด แต่เพราะว่า สารบางอย่างที่แทรกอยู่ในผักนั้นมีฤทธิ์ในการทำให้อวัยวะภายในบางแห่ง อย่างเช่นกระเพาะอาหาร เกิดอาการผิดปรกติได้ ด้วยเหตุนี้หากเป็นไปได้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทาน ผักอย่างเดียวขณะท้องว่าง

4. นมและนมถั่วเหลือง

แม้ว่านมถั่วเหลืองจะอุดมไปด้วยโปรตีน แต่จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อกระเพาะอาหาร มีสารอาหารประเภทแป้งอยู่ด้วย

5. เหล้า

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์นั้น ไม่ค่อยจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพ สักเท่าไร แถมหากดื่มมากเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายอื่นๆตามมาด้วย นอกจากนี้การดื่มเหล้า ในขณะท้องว่าง จะไปกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร ทำให้เป็นโรคกระเพาะอาหาร อักเสบ และเป็นแผล ในกระเพาะอาหารได้

6. น้ำตาลหรืออาหารหวาน

ไม่ควรรับประทานอาหารหวานหรือที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลมากจนเกินไป เช่น น้ำอัดลม ช็อกโกแลต เพราะหากรับประทาน ขณะท้องว่าง จะทำให้โปรตินรวมตัวกับน้ำตาล ส่งผลต่อการดูดซึม โปรตินทุกชนิด และลดสมรรถภาพ การทำงานของระบบหมุนเวียนเลือดและไต

7. ชา

หลายคน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในวัยกลางคนขึ้นไป การจิบชาถือเป็นกิจวัตรที่ได้รับความนิยม เป็นอย่างยิ่ง เพราะหลายคนเชื่อว่า การดื่มชาจะช่วยให้จิตใจสงบ และช่วยต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ได้ แต่ทราบหรือไม่ว่า การดื่มชาที่แก่เกินไป จะทำให้กรดเกลือในน้ำย่อย ในกระเพาะอาหารเจือจาง ส่งผลให้การทำงานของระบบย่อยอาหารลดลง และเกิดอาการใจสั่น เวียนศีรษะ มือเท้าไม่มีแรง จิตใจไม่สงบ ได้

8. ลูกพลับ

ลูกพลับ ลูกไม้สีส้ม ผลอวบอิ่มเต่งตึง รสหวานฉ่ำดูแล้วน่าลิ้มลองยิ่งนัก แต่แนะนำว่า ไม่ควรรับประทานลูกพลับในขณะที่ท้องว่าง เพราะลูกพลับนั้นมียางและสารแขวนลอยอยู่ มากทีเดียว หากรับประทานขณะท้องว่าง มันจะไปรวมตัวกับกรดเกลือ ซึ่งหลั่งมาจากกระเพาะอาหาร ส่งผลให้เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ และเป็นแผลในกระเพาะอาหาร

นอกจากอาหารข้างต้นแล้ว การอาบน้ำ และ ออกกำลังกาย ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ในขณะท้องว่างด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีน้ำตาลในเลือดต่ำ เพราะการอาบน้ำและ การออกกำลังกาย ในขณะที่ท้องว่างนั้น จะทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากปริมาณน้ำตาลในเลือด ตอนนั้นจะมีปริมาณที่ต่ำมาก

Endrophine


แหล่งข้อมูล :
www.banpai.com