หน้าร้อนแบบนี้ หลายต่อหลายคนอาจจะแอบฝันหวานถึงการหลบร้อน ไปผักผ่อนแถบชายทะเล หรือกระโดดลงสระน้ำให้สดชื่นรับคลื่นความร้อน ที่เพิ่มขึ้นทุกที ฉะนั้น ชุดว่ายน้ำจึงกลายเป็น อุปกรณ์สำคัญที่พลาดไม่ได้ ซึ่งจะต้องตระเตรียมไว้ให้พร้อม
ทว่าในปัจจุบัน มีชุดว่ายน้ำให้เลือกมากมายหลากหลายสไตล์ ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจซื้อ แต่ละครั้ง ไปดูซิว่า มีชุดว่ายน้ำทรงไหน แบบใดให้เราได้เลือกเพื่อเข้ากับรูปร่างกันบ้าง
1. การแบ่งตามประเภท มี 2 แบบคือ แบบ วันพีช (One-piece) และแบบทูพีช (Two-piece)
Bandeau ชุดว่ายน้ำแบบบรา เกาะอก ไร้สาย ใส่แล้ว เอวจะดูคอด
Monokini ชุดว่ายน้ำที่มีการตัดเว้าช่วงเอวหรือท้อง ให้ดูเหมือนสวมชุดว่ายน้ำแบบทูพีช
Boy Leg ชุดว่ายน้ำที่คลุมมาถึงต้นขา ดูทะมัดทะแมงเหมือนเด็กผู้ชาย สาวทรงตรง สะโพกแบน ใส่แบบนี้ก็ดูน่ารักดี
Princess Seam ชุดว่ายน้ำแบบที่มีตะเข็บด้านหน้าชุด เป็นเส้นตรงในแนวตั้ง สวมแล้วทำให้หุ่นดู เพรียวขึ้น
Classic Tank ชุดว่ายน้ำแบบเรียบ เว้าช่วงอก เหมาะกับรูปร่างแทบทุกแบบ
Skater Skirt ชุดว่ายน้ำที่มีท่อนล่างเป็นกระโปรง
Empire Waist ชุดว่ายน้ำที่เย็บเส้นขวางลำตัวบริเวณใต้อก จะทำให้ช่วงตัวยาวขึ้น
Surplice ชุดว่ายน้ำที่ออกแบบมาให้เป็นผ้าฝ้ายทแยงไปบ้าง ลำตัวด้านใดด้านหนึ่ง ช่วยเก็บส่วนเกิน ข้างลำตัว
Halter บราแบบคล้องคอ
Brazilian Pant กางเกงว่ายน้ำแบบเว้าสูง และลึก เหมาะกับสาวใจกล้า ที่อยากให้ดูช่วงขายาวเรียว
Molded Bra บราแบบทรงมีโครงเป็นฟองน้ำ เหมาะสำหรับสาวๆ ช่วงบนเล็ก
Thong กางเกงว่ายน้ำแบบมีสายเส้นเล็ก คาดด้านข้าง ช่วยให้สะโพกดูเล็กลงอีกนิด
Underwire บราที่มีโครงเป็นลวด ช่วยเก็บทรงให้เข้ารูป
Tie Side กางเกงว่ายน้ำเว้าสูงผูกเชือกด้านข้าง ไม่เหมาะกับสาวสะโพกใหญ่
Triangle บราสามเหลี่ยม เหมาะมากสำหรับสาวไซส์ M ที่มีหน้าอกกำลังดี
Clean High Waist กางเกงว่ายน้ำขอบเอวสูงปิดสะดือ เก็บช่วงท้อง
Sport Bra บรานักกีฬา ค่อนข้างกระชับท่อนบน
Hipster กางเกงว่ายน้ำกุ๊นขอบ ยาวลงมาปิดสะโพกพอดีตัว
Bandeau บราไร้สาย ไม่เหมาะสำหรับสาวช่วงตัวสั้น
Hot Pant กางเกงว่ายน้ำขาสั้น
Ballet Bra บราแบบเรียบเต็มตัว เหมาะกับรูปร่างทุกแบบ
Skater Skirt กางเกงว่ายน้ำแบบมีชายกระโปรง เพื่อคลุมโคนขา
Tankini เสื้อตัวบนที่มีชายยาวมาปิดส่วนท้อง
Sarong ผ้าผืนบางคลุมท่อนล่าง สำหรับสาวใจไม่กล้าพอ
2. เนื้อผ้า (Fabric) ชุดว่ายน้ำที่ทำจากผ้าฝ้าย (cotton) 100 % มีน้ำหนักเบา แต่จะย้วยเสียทรงได้ง่าย ดังนั้น จึงควรเลือกชุดว่ายน้ำที่เป็นเนื้อผสมระหว่างผ้าฝ้ายและไลครา เพราะเส้นใยไลคราจะยืดหยุ่น แนบพอดีกับร่างกาย และยังป้องกันสารคลอรีนได้ดี ชุดว่ายน้ำส่วนใหญ่ในปัจจุบันจึงใช้เนื้อผ้าดังกล่าว
3. เลือกตามสรีระ (Figure Mind) การใส่ชุดว่ายน้ำตามใจชอบอย่างเดียวนั้น คงไม่เข้าทีแน่ หากต้องแลกกับความไม่มั่นใจเวลาสวมใส่ ทั้งไม่คล่องตัวและแสนขัดตาตัวเอง และคนอื่น ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป แค่เลือกสวมใส่ชุดว่ายน้ำ ที่เหมาะกับรูปร่างของคุณเท่านั้น
4. การดูแล (Take Care) ชุดว่ายน้ำ ก็เช่นเดียวกับเสื้อผ้าประเภทอื่นๆ เมื่อนำมาใส่แล้ว เราก็ต้องรู้จักวิธีในการดู และเก็บรักษามันให้ดี เพื่อจะได้เอาไว้ใส่นานๆ ซึ่งวิธีการดูแลชุดว่ายน้ำนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆ คือ หลังจากสวมใส่แล้ว ให้นำมาซักด้วยสบู่ กับน้ำเย็น โดยขัดเบาๆ ด้วยแปรงขนอ่อน แล้วล้างน้ำสะอาดตามปรกติ จากนั้นก็นำไปตาก ด้วยการวางราบ หลีกเลี่ยงการปั่นแห้ง และตากแดดโดยตรง เพราะความร้อนจะทำให้ชุดยืด เสื่อมสภาพเร็ว
แหล่งข้อมูล : women.sanook.com/ www.swimwearboutique.com www.teenee.com