ที่เมืองไทย ตอนนี้ใกล้เข้าสู่หน้าฝน แบบเต็มตัวแล้ว ชาวเมืองหลายคน อาจกำลังหงุดหงิด กับสภาพฝนตก รถติด เสื้อผ้าเหม็นอับ จนลืมสังเกตเห็นความร่าเริง ของมวลหมู่แมกไม้ ที่ต่างพากันสะบัดใบ ไหวกิ่งไปตามกระแสลม และสายฝนแห่งวสันตฤดู ไม่เอาน่า.... ฝนมาทั้งที น่าจะหาโอกาส ไปสัมผัสกับความบริสุทธิ์ ของธรรมชาติ ตามต่างจังหวัด กันบ้างแทนที่จะมานั่งทำหน้าเหี่ยวเฉา เป็นต้นไม้ขาดน้ำ แล้วอย่าลืม เอากระเป๋าใบใหญ่ๆ ไปด้วยนะ เพราะเดี๋ยวจะเก็บเอาความอิ่มเอมใจ กลับมาได้ไม่หมด สำหรับคุณๆ ที่รักการผจญภั ยแต่มีเวลาไม่มาก เราขอเสนอ "แก่งหินเพิง" สถานที่ ที่สามารถแต่งแต้มสีสัน ให้กับชีวิตของคุณ ได้อย่างครบรสชาติ
“แก่งหินเพิง” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ห่างจากกรุงเทพประมาณ 230 กิโลเมตร กิจกรรมเด่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้หลงใหลในธรรมชาติ ให้เดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ ก็คือ "การล่องแก่ง"
แก่งหินเพิง มีระยะทาง ในการล่องประมาณ 5 กิโลเมตร ความยากในการล่อง อยู่ที่ระดับ 3-4 ก่อนล่อง ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 30-45 นาที ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยว จะได้สัมผัสกับความสดชื่น ของผืนป่าที่เขียวขจี เพลิดเพลินไปกับเสียงร้อง ของเหล่านก และแมลง ที่อาศัยอยู่ในไพรกว้าง สลับไปกับเสียงสายน้ำไหล จากลำน้ำที่เรากำลังจะล่องกลับมา
การล่องแก่ง ที่แก่งหินเพิงนี้ ผู้ล่องจะได้ผจญภัยฝ่าแก่งทั้งหมด 6 แก่ง ได้แก่ แก่งหินเพิง แก่งวังผักหนามล้อม แก่งลูกเสือ แก่งวังบอน แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ซึ่งใช้ระยะเวลารวมทั้งสิ้น ประมาณ 45 นาที - 1 ชั่วโมง
1.ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น ควรสวมใส่อุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยทุกครั้ง และควรเลือกอุปกรณ์ ที่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานด้วย อย่าง หมวกกันน็อคต้องมีสายใต้คาง เสื้อชูชีพ ควรเลือกขนาดที่พอดีตัว และมีสายรัดครบถ้วน
2.เสื้อผ้าที่สวมใส่ ควรเลือกที่ใส่แล้วกระชับ มีความคล่องตัว เนื้อเบา แห้งง่าย
3.รองเท้า ควรเลือกที่น้ำหนักเบา ไม่อุ้มน้ำ และมีสายรัดส้น เพื่อไม่ให้หลุดหายไปกับสายน้ำ
|
|
4.น้ำดื่ม 1 ขวด
5.ครีมกันแดด
6.ที่สำคัญควรเชื่อฟัง คำสั่งของหัวน้าฝีพาย
นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ที่ควรเตรียมอีก เช่น ถุงกันน้ำ สำหรับใส่สัมภาระ ที่ไม่อยากให้เปียก อาหาร เต้นท์ และเครื่องนอน สำหรับการล่องแก่ง ที่ต้องใช้ระยะเวลานาน หรือมีระยะทางไกล สุดท้ายที่ขาดไม่ได้ก็คือ ยาและอุปกรณ์ปฐมพยาบาล
1.สติ เป็นสิ่งสำคัญ อย่าตกใจ อย่าร้องตะโกน ขอความช่วยเหลือ เพราะอาจจะสำลักน้ำได้ สิ่งที่ควรปฏิบัติคือ แค่ชูมือ หรือไม้พายเหนือหัวไว้ หรือหาที่ยึดเกาะ เพื่อรอเรือหรือทีมเข้ามาช่วย
2.หากพอว่ายน้ำได้ ควรว่ายน้ำเข้าหาเรือ หรือฝั่งให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกาย ได้รับอันตรายจากกระแสน้ำ และแก่งหิน
3.พยายามลอยตัวให้อยู่เหนือน้ำ ในท่านอนหงาย ยกขาขึ้น ในระดับผิวน้ำ เพื่อให้เสื้อชูชีพ ช่วยพยุงตัวให้ลอย ในขณะที่ กำลังถูกน้ำพัดไปเรื่อยๆ ให้เหยียดขาไปตามกระแสน้ำ เพื่อป้องกันการกระแทกกับหิน อย่าใช้ขาเหยียบ หรือเดิน เพราะอาจกระแทกหินได้เช่นกัน
4.อย่างอเข่าหรือคว่ำหน้า เพราะจะทำให้ร่างกายกระแทก กับสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้
5.เมื่อมีคนมาช่วยขึ้นเรือ ให้หันหลัง ให้คนช่วย และดึงเสื้อชูชีพลง เนื่องจากคนช่วยจะฉุดเราขึ้นเรือ โดยดึงเสื้อชูชีพด้านหลัง ซึ่งจะทำให้เสื้อชูชีพรั้งขึ้นมา และอาจทำให้หายใจไม่ออกได้
หมายเหตุ: อย่าตกใจหากกลับมาแล้ว จะมีแต่คนรุมล้อม ทั้งนี้ก็เพราะว่า ความอิ่มเอมใจ ที่คุณพกกลับมาด้วย น่ะมันเปล่งประกายออกมา เสียจนคนรอบข้างสัมผัสได้ และอยากจะมาแบ่งปัน ไปเก็บเอาไว้บ้างก็เท่านั้นเอง
|
บทความ 
ที่เมืองไทยตอนนี้ใกล้เข้าสู่หน้าฝนแบบเต็มตัวแล้ว ชาวเมืองหลายคนอาจกำลังหงุดหงิดกับสภาพฝนตก รถติด เสื้อผ้าเหม็นอับจนลืมสังเกตเห็นความร่าเริงของมวลหมู่แมกไม้ที่ต่างพากันระบัดใบไหวกิ่งไปตามกระแสลมและสายฝนแห่งวสันตฤดู ไม่เอาน่า....ฝนมาทั้งทีน่าจะหาโอกาส
