Home บทความ Free Zone กาตาร์ (1)
กาตาร์ (1)
หากย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน กาตาร์ คงเป็นชื่อที่อาจไม่คุ้นหูใครเท่าไรนัก ทว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มหาอำนาจไม่ว่าน้อยใหญ่ ต่างก็ ให้ความสนใจ และอยากจะเข้ามาสัมผัส นครแห่งนี้ เพราะมีการค้นพบแหล่งทองคำสีดำ ซึ่งถือว่า มีมากติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเด Untitled Document

หากย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน กาตาร์ คงเป็นชื่อที่อาจไม่คุ้นหูใครเท่าไรนัก ทว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มหาอำนาจไม่ว่าน้อยใหญ่ ต่างก็ ให้ความสนใจ และอยากจะเข้ามาสัมผัส นครแห่งนี้ เพราะมีการค้นพบแหล่งทองคำสีดำ ซึ่งถือว่า มีมากติดอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว

กาตาร์ มีสภาพภูมิประเทศเป็นทะเลทรายและเป็นแหลมยื่นออกจากชายฝั่ง ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับนับถือศาสนาอิสลาม และมีชีค ฮามัด บิน คาลิฟา อัล-ตานี (H.H. Shaikh Hamad Bin Khalifa Al-Thani) ดำรงตำแหน่งเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ (Amir of Qatar) (มาจากการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2538)

สาเหตุที่เมื่อก่อนเราไม่ค่อยสนใจกาตาร์ อาจเป็นเพราะ ผู้นำประเทศคนก่อน ที่ยังยึดติดกับการปกครองแบบเดิมๆ ทำให้กาตาร์ ไม่มีการพัฒนามากเท่าที่ควร ซ้ำยังเป็นดินแดนที่อยู่ห่างไกล แต่เมื่อ ชีค ฮามัด บิน คาลิฟา อัล-ตานี เข้ามาเป็นผู้กุมอำนาจแทน หลายสิ่งหลายอย่าง จึงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เรียกได้เลยว่า ดีขึ้น

แต่เหตุผลสำคัญที่ทำให้ กาตาร์กลายเป็นเป้าหมายของนานาประเทศ น่าจะอยู่ที่ทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีมากมายนั่นเอง แต่เดิม สินค้าส่งออก ที่สำคัญของนครแห่งนี้ มีเพียง ปศุสัตว์ การประมง และไข่มุก แต่หลังจากปี 1939 เป็นต้นมา น้ำมันกลับกลายเป็นสินค้า ที่สร้างผลประโยชน์ให้กาตาร์ อย่างมหาศาล และนอกจากนี้ ยังมีแหล่งก๊าซธรรมชาติ ที่ถือว่าใหญ่มากเป็นอันดับสามของโลก เลยทีเดียว โดยเป็นรองเพียง รัสเซียและอิหร่าน

อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า กาตาร์จะมุ่งพัฒนา แค่เพียงอุตสาหกรรมหนักเท่านั้น ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับความสนใ จจากผู้ปกครองชุดนี้ไม่น้อย เพราะมันเป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่จะเปิดประตูกาตาร์ สู่โลกภายนอกได้ ประกอบกับทำเลที่ตั้งซึ่ง อยู่บนชายฝั่งตะวันตกของอ่าวอาราเบียน ทำให้กาตาร์ กลายเป็นดินแดนที่ค่อนข้างจะห่างไกล สำหรับตลาดการท่องเที่ยว และยังคงหลงเหลือสมบัติ ที่ยังไม่มีการค้นพบอีกมากมาย ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวแห่งกาตาร์ (Qatar Tourism Authority) จึงได้รับการก่อตั้งขึ้นเพื่อโปรโมต กาตาร์ และสนับสนุนกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องไปสู่สายตาของชาวโลก และเนื่องจาก กาตาร์เองเป็นประเทศ ที่ค่อนข้างจะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และมีเมืองใหญ่ ๆ ที่สำคัญหลายแห่ง จึงทำให้ในแต่ละพื้นที่ มีเอกลักษณ์ที่น่าดึงดูด แตกต่างกันออกไป และคงจะไม่แปลกอะไร ที่ธุรกิจทางด้านนี้ จะเริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ไปดูซิครับว่า มีอะไรน่าชมกันบ้าง


โดฮา (Doha):

โดฮา เป็นเมืองหลวง ของกาตาร์ ตั้งอยู่บนอ่าว ณ ชายฝั่งด้านตะวันออก ของคาบสมุทร กาตาร์ โดฮา เป็นคำภาษา อาหรับ หมายถึง ต้นไม้ใหญ่ แต่ไม่ปรากฏหลักฐาน แน่ชัดว่า ทำไมถึงตั้งชื่อว่า ต้นไม้ใหญ่ มีประชากร อาศัยอยู่ประมาณ 83% ซึ่งถือว่าหนาแน่นพอสมควร ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม โดฮา จึงถือเป็นศูนย์กลางการค้า และวัฒนธรรมของประเทศ ที่รวมสิ่งต่างๆ ไว้อย่างมากมาย

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ส่วนใหญ่ จะเป็น พิพิธภัณฑ์ ป้อมปราการเก่าแก่ สุเหร่า สถาบันการศึกษา และ ถนนคดเคี้ยว ที่ตัดวกวนไปตามไหล่เขาชัน หรือตามหน้าผาชายฝั่งทะเล นอกจากนี้ ตามท้องถนนบนชายฝั่ง ยังสวยงามไปด้วยปาล์มน้อยใหญ่ ที่เรียงรายไปจนสุดสาย ทั้งยังลมทะเลอ่อน ๆ ที่มักจะโชยมาทักทาย กับผู้มาเยือน อย่างไม่ขาดสาย ด้วยเหตุนี้ โดฮาจึงกลาย เป็นเมืองใหญ่ ที่น่ามาพักผ่อนมากทีเดียว และหากใครที่ชื่นชอบการทำกับข้าว หรือยากทราบว่า อาหารที่โดฮาสดแค่ไหน แนะนำว่า ต้องไปเดินตลาดสดยามบ่ายด้วย รับรองว่า เป็นอีกสีสันหนึ่ง 0ที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่

อัล วากราห์(Al Wakrah) :

ทว่า หากจะสัมผัสกับอาหารทะเลสด ๆ อย่างใกล้ชิด ฮัล วากราห์ น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ทำให้คุณประทับใจได้ไม่น้อย อัล วากราห์นั้น เป็นเมืองเล็ก ๆ ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลา งระหว่าง โดฮา และ เมซายิด มันเป็นศูนย์กลาง ของความเจริญทางการค้า และ กิจกรรมเกี่ยวกับการทำประมง อีกทั้งยังมีท่าเรือประมง อันเก่าแก่อีกด้วย ซึ่งก็ยังคงใช้การได้ มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ อัล วากราห์ ยังมีสุเหร่าที่มีชื่อเสียง และสวยงาม ประกอบกับบ้านสไตล์อิสลาม ที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต ของคนมุสลิมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อัล วากราห์ ยังถือเป็นแหล่งกำเนิด ของพิพิธภัณฑ์อันเก่าแก่ ที่มีการออกแบบตามสไตล์อาหรับ เช่นเดียวกับสิ่งก่อสร้างอื่นๆ

อัลกอร์ (Alkhor):

อัลกอร์ เมืองใหญ่ ทางตอนเหนือของ กาตาร์ ที่อยู่ห่างจาก โดฮ าเพียง 57 กิโลเมตร เท่านั้น แต่เลื่องชื่อทางด้าน แดนไข่มุก ("pearl pot" ) ตั้งแต่ปี 1940 เป็นต้นมา อัลกอร์ ถูกใช้เป็นท่า เรือ และศูนย์กลาง การทำประมงไข่มุก ที่ใหญ่มากแห่งหนึ่ง

แม้ว่าจะมีการค้า อย่างอื่นเข้ามาแทนที่ ธุรกิจ เหล่านั้น อัลกอร์ก็ยังเต็มไปด้วย อนุสรณ์สถาน ที่พิสูจน์ให้เห็นถึง ประวัติศาสตร์ อันน่ายกย่อง ของเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็นสุเหร่า โบราณที่สวยงามตามสไตล์อาหรับ พิพิธภัณฑ์อันได้ชื่อว่า เป็นบ้านอันอบอุ่น ของผลงานด้านโบราณคดี ที่มีค่ามากมาย รวมถึง หอคอย ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อีกหลายแห่งด้วย

เมซายิด (Mesaieed):

เมซายิด ถือเป็นหัวใจสำคัญอีกแห่ง ของกาตาร์ เพราะ ตั้งอยู่บนชายฝั่ง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของประเทศ อันเป็นศูนย์กลาง ของอุตสาหกรรมหนัก และเมืองท่า สำหรับการค้นหา และส่งออกน้ำมัน กับผลิตภัณฑ์ไอโดรคาร์บอน ประเภทอื่นๆ อีกด้วย แต่แม้ว่า จะเป็นเมืองอุตสาหกรรม ทว่าหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวบนหาดใน เมซายิดนั้น สามารถสร้างเสน่ห์ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย

ดูกัน(Dukhan):

ดูกัน นั้นถือเป็นเมือง ที่เพิ่งจะได้รับการพัฒนา เนื่องจากมีการค้นพบน้ำมันใน พื้นที่รอบ ๆ ทำให้กลายเป็น เมืองสำคัญต่อประเทศกาตาร์ ขึ้นมาทันที นอกจากนั้น ดูกันยังเป็นอีกเมือง ที่ยังคงความสวยงาม ของชายหาดริมทะเลไว้ได้อีกด้วย

ชาฮานิยา (Shahaniya):

มาเยือนทะเลทรายทั้งที หากไม่แวะไปทักทาย เจ้าถิ่นอย่างอูฐตัวใหญ่ๆ ก็คงจะน่าเสียดายไม่น้อย ดังนั้น ผมจึงพามาต่อกันที่ ชาฮานิยา ซึ่งเป็นเมือง ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวนตก ของโดฮาไปประมาณ 60 กิโลเมตร ชาฮานิยา เป็นเมืองที่มีการสนับสนุน ให้สร้างลู่สำหรับการแข่งขันอูฐ ซึ่งก็มีรายการแข่งขันวิ่งอูฐ ที่มีชื่อเสียงมากด้วย

นอกจากนี้ หากต้องการเก็บภาพสวย ๆ ของเจ้าพวกสี่ขาแล้วละก็ แนะนำว่า อัล ชาฮานิยา ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะผู้มาเยือน สามารถมองเห็น เจ้าอูฐนับสิบ ๆ ตัว เดินเล่นอยู่รอบๆ ทะเลทราย และยังมีสนาม สำหรับแข่งอูฐอีกด้วย แต่ถ้าคุณอยากสัมผัสรสชาติ อีกแบบที่สุดยอดไม่แพ้กัน แนะนำให้หารถประเภท 4WD มาลองบนพื้นทรายซักคัน สุดยอดครับ


สถานที่ท่องเที่ยว

(Tourist Attractions)

เดอะ ปาล์ม ทรี ไอส์แลนด์ (The Palm Tree Island)

สำหรับใครที่ต้องการ จะสัมผัสกลิ่นไอ ทะเลยามเย็น แนะนำให้มาที่ เดอะ ปาล์ม ทรี ไอส์แลนด์ ครับ เพราะ เป็นเกาะที่อยู่ห่างจาก โดฮา คอร์นิค (Doha Corniche) โดยต้องนั่งเรือออกไป ประมาณ 10 นาที เท่านั้น ปาล์ม ทรี ไอส์แลนด์ พร้อมที่จะมอบความสุข แก่ผู้มาเยือนทุกเพศทุกวัย เริ่มต้นมื้อค่ำ ด้วยอาหารทะเลสด ๆ จากภัตตาคารชื่อดัง หรือ บาร์บีคิวเลิศรส แล้วตามด้วยอาหารว่างจานพิเศษ ที่รับรองว่ามากด้วยความสด และรสอร่อย บริเวณท่าเทียบเรือ เป็นอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งจะสร้างความประทับใจ ให้ทุกท่านได้ไม่น้อย ด้วยคาราวานเรือใบพื้นเมือง ซึ่งลอยคออยู่ทั่วริมฝั่ง ใกล้กับโรงแรม เชอราตัน โดฮา (Doha Sheraton Hotel) ที่ตั้งอยู่ริมฝั่ง คอร์นิค อีกด้วย เกาะ เดอะ ปาล์ม ทรี ไอส์แลนด์ นั้น เปิดบริการเป็นประจำ ทุกวัน ตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง สามทุ่มครึ่ง ส่วนค่าธรรมเนียมการเข้า สำหรับเด็กจะตก คนละ 120 บ.(10 Q) และ ผู้ใหญ่คนละ 180 บ. (15 Q ) โดยราคาดังกล่าว จะรวมค่าเรือข้ามฟากด้วย

เอนเตอร์เทนเมนต์ ซิตี้ หรือ ดินแดน แห่ง อาลาดิน (Entertainment City or the Kingdom of Aladdin)

 

คาดว่าหลายคน คงรู้จัก อลาดินกับ ยักษ์ในตะเกียงแก้ว กันแน่เลยใช่ไหมครับ วันนี้ เฮฮาจะพาทุกท่านไป ยังโลกของอลาดินกันครับ ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ เพราะที่ที่ผมจะพาไปมันคือ เอนเตอร์เทนเมนต์ ซิตี้ แต่คนที่นี่ เขามักขนานนามว่า ดินแดนแห่งอลาดิน โดยสถานที่ แห่งนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่อ่าว เวสต์ เบย์ (West Bay) ทำไมถึงชื่อว่า เป็น ดินแดนของยักษ์อาลาดิน นะหรือครับ ก็เพราะว่า มันเต็มไปด้วย แหล่งสันทนาการ ต่างๆ ถึง 18 แห่ง ที่ถูกเตรียมไว้ให้เหมาะคนทุกเพศทุกวัย เลยละครับ นอกจากนี้ ยังมีบ้านพักตากอากาศ ทะเลสาบเทียม โรงภาพยนตร์ และ ร้านอาหาร อีกมากมายด้วย ดินแดนหรรษาแห่งนี้ จะเปิดให้ร่วมสนุกได้ ตั้งแต่ วันอาทิตย์จนถึงเสาร์ เริ่มเวลา บ่ายสี่โมงเย็น ถึง ห้าทุ่มโน้นแนะครับ และสำหรับวันจันทร์ และวันพุธจะเป็นวันที่มีบริการพิเศษ สำหรับเด็ก และสตรีโดยเฉพาะ ค่าธรรมเนียมในการ เข้าใช้บริการโดยปรกติจะอยู่ที่ 120 บ.(10 QR) สำหรับค่าธรรมเนียม ในการชมการแสดง สามารถซื้อได ้ภายในดินแดนดังกล่าว

สวนสัตว์(The Zoo)

สวนสัตว์หรรษา ตั้งอยู่ห่างจากเมือง โดฮา ไปตามถนน ซาลวา ประมาณ 20 กิโลเมตร แม้จะเป็นดินแดนทะเลทราย ทว่า ตลอดเส้นทางการเข้าชม คุณ หนู ๆ จะเพลิดเพลินกับสัตว์น้อยใหญ่ นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นพวก นกหายาก หรือ สัตว์เลื้อยคลาน ตระกูลต่างๆ สวนสัตว์แห่งนี้ จะเปิดให้บริการ เกือบทุกวัน เว้นวันอาทิตย์วันเดียว เริ่มให้บริการความสนุก ตั้งแต่เวลา บ่ายสองโมงจนถึง หนึ่งทุ่มตรง ธรรมเนียมค่าเข้าชมนั้น สำหรับเด็กจะอยู่ที่ 24 บ.(2 QR )ส่วนผู้ใหญ่อยู่ที่ 60 บ.(5 QR)

เกาะ ฮาลูล ( Haloul Island)

เกาะ ฮาลูล เป็นสถานที่ท่องเที่ยว อีกแห่งที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นเกาะ ที่ขึ้นชื่อมาก ด้านการดำน้ำชมปะการัง และสัตว์น้ำใต้ทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกปลาสวยงามต่างๆ ที่มักจะออกมาหยอกล้อ กับปะการังสีสวยนับนานาชนิด

สำหรับนักดูนกทั้งหลาย กาตาร์เป็นแหล่งดูนก แหล่งสำคัญที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง มีนกหลากสายพันธุ์ ที่รอให้คุณมาสัมผัส ไม่ว่าจะเป็น เหยี่ยวกินปลา ฟลามิงโกแสนสวย นางนวล หรือ นกทะเลประเภทอื่นๆ

นอกจากแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ข้างต้นแล้ว กาตาร์ยังเป็นอีกประเทศ ที่ใส่ใจกับสุขภาพของประชากร ทั้งทางจิต และร่างกายไม่น้อย ด้วยเหตุนี้ จึงมีการสร้างสวนสาธารณ หลายแห่ง ไว้สำหรับให้แต่ละครอบครัว ได้ใช้เวลาว่างในการออกกำลังกาย และทำกิจกรรมร่วมกัน โดยมีสวนสาธารณ ที่ได้รับความนิยมมากดังต่อไปนี้คือ

อัล รูมัยลา ปาร์ค (Al- Rumaila Park)

อัล รูมัยลา ปาร์ค เป็นสวนที่ตั้งอยู่บน โดฮา คอร์นิค (Doha Corniche) ซึ่งประกอบด้วย บริเวณ ทุ่งหญ้ากว้าง และเครื่องเล่นเด็กมากมาย นอกจากนี้ ยังมีตลาดและภัตตาคารอันเลื่องชื่อ ด้วย สวนแห่งนี้ จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และฟรีค่าธรรมเนียม การเข้าชมด้วย

กอร์ อัล อูดาอิด บีช (Khor Al Udaid Beach)

กอร์ อัล อูดาอิด เป็นชายหาด ที่ทอดยาวอยู่บน ชายฝั่งทางตอนใต้ ห่างจากโดฮา ไปประมาณ 78 กิโลเมตร หาดอันสวยงามแห่งนี้ โดดเด่นด้วย ภูเขาทราย ที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ซึ่งบางลูกก็สูงถึง 40 เมตร นอกจากนี้ มันยังเชื่อมต่อไปยัง หาดงาม ๆ อย่าง ฟูไวริต ดูคัน และอื่นๆ อีกมากมาย

อัล จัสซาซิยา (Al Jassasiya)

อัล จัสซาซิยา เป็น แนวเทือกเขาหิน ที่ทอดยาวอยู่บนชายฝั่ง ทางตอนเหนือ ของประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่าง ชุมชนสองแห่งคือ อัล ฮูไวลาห์และ ฟูไวริต ซึ่งมีชื่อเสียง ทางด้านการแกะสลักหินเป็นอย่างยิ่ง บางชิ้นเป็นผลงาน ที่สร้างขึ้น ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์

อัลมาฮา (Almaha Sanctuary)

อัลมาฮาเป็นอีกสถานที่หนึ่ง ซึ่งมีคุณค่าต่อทั้งชาวกาตาร์ และผู้มาเยี่ยมเยือน โดยสวนดังกล่าว นอกจากจะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แล้วยังใช้เป็นแหล่ง ป้องกันพันธุ์ กวางทะเลทราย จิ้งจอกทะเลทราย กระต่ายป่า ดังนั้น อัลมาฮา จึงถือว่า เป็นสัญลักษณ์ประจำชาต ิของกาตาร์เลยทีเดียว

U & K

แหล่งข้อมูล :
www.miceonline.net
www.arab.net
www.qp.com.qa
Http://english.mofa.gov.qa
www.virtualtourist.com
sg.travel.yahoo.com